ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 75,710 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 22.00 น. วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2550
ผู้ตัดสิน คริส ฟอย
ด้วย 2 ประตูด้วยเวลาห่างกันเพียง 2 นาทีจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยให้ทีมเอาชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไปได้ 2 – 0 ในขณะที่ทั้งอาร์เซนอล, เชลซี และลิเวอร์พูล ไม่สามารถเอาชนะทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเก็บ 3 แต้มขึ้นนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก
แม้ทั้งสองทีมจะเล่นได้อย่างสูสี และทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส ก็สร้างเกมรุกให้ทีมปีศาจแดงหวาดเสียวหลายๆ ครั้ง แต่ 2 ประตูของโรนัลโด้ ในครึ่งแรก และการถูกไล่ออกของเดวิด ดันน์ ตั้งแต่ต้นครึ่งหลังก็ทำให้ทีมกุหลาบไฟไม่สามารถทวงประตูคืนได้
เซอร์ อเล็กซ์ ส่งริโอ เฟอร์ดินานด์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ไรอัน กิ๊กส์, เวส บราวน์ และ แอนเดอร์สัน ลงเล่นเป็นตัวจริง ในขณะที่เวย์น รูนี่ย์ เจ็บต้องพัก 4 สัปดาห์ทำให้หลุยส์ ซาฮา ได้รับโอกาสให้ลงเล่นแทน โดยเป็นกองหน้าคู่กับคาร์ลอส เตเบซ และก็เป็นศูนย์หน้าชาวอาร์เจนติน่า ที่สร้างโอกาสแรกให้แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ 2 นาทีแรกเมื่อเขาได้ยิงจากระยะ 20 หลาแต่ แบรด ฟรีเดล ก็ป้องกันไว้ได้
อย่างไรก็ดี แบล็คเบิร์นก็ไม่ได้ถูกบุกฝ่ายเดียว พวกเขาโต้กลับทันที 1 นาทีหลังจากนั้น และได้ยิงจากระยะ 30 หลาของ เดวิด เบนท์ลี่ย์ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป
ช่วง 15 นาทีแรกทั้งสองทีมพลัดกันรุกพลัดกันรับอย่างสนุก ทั้งลูกยิงของ พีเดอร์เซ่น ที่หลุดออกนอกกรอบไป ตามด้วยของลูกยิงของเตเบซ ถึง 2 ครั้งทีมกุหลาบไฟก็ยังแข็งแกร่งป้องกันไว้ได้
จากนั้นก็เป็นลูกเปิดของ ปาทริซ เอฟร่า ให้กับ หลุยส์ ซาฮา ได้โหม่งแต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป ตามด้วยลูกยิงของ แม็คคาร์ธี่ย์ อีก 2 ครั้งแต่กองหลังทีมปีศาจแดงก็สกัดไว้ได้
นาทีที่ 18 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบเสียประตูในจังหวะที่ โรนัลโด้ถูกทำฟาวล์ บริเวณกรอบเขตโทษของแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อ และบอลไปเข้าทาง แซมบ้า ได้ยิงจากระยะ 25 หลาแต่บอลก็ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นในนาทีที่ 20 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ถูก เนลเซ่น ทำฟาวล์ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลูกฟรีคิก และโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ รับหน้าที่ยิงฟรีคิก แต่บอลก็ไปชนกำแพง จากนั้นโรนัลโด้ ก็มีโอกาสได้ยิงจากระยะ 18 หลา แต่ เบนท์ลี่ย์ ซึ่งยืนคุมเส้นอยู่ก็เคลียร์บอลออกมาได้ทัน
แต่แล้วในนาทีที่ 33 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำ จากลูกเตะมุมของไรอัน กิ๊กส์ ไปให้กับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นโหม่งโล่งๆ เข้าประตูไป แม้ เบนท์ลี่ย์ จะยืนคุมเส้นอยู่แต่ก็สกัดไว้ไม่อยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1 – 0
จากนั้นอีกเพียง 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดก็ไม่รอช้าที่จะทำประตูที่ 2 จากการประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมของซาฮา, เตเบซ และโรนัลโด้ โดยจากการโหม่งบอลพลาดของฝั่งแบล็คเบิร์น ไปตกใส่เตเบซแตะต่อให้ซาฮา ก่อนจะชิ่งคืนให้เตเบซ และเปิดต่อให้กับโรนัลโด้ ที่วิ่งสอดขึ้นมากลางประตู ได้แปบอลผ่านมือ ฟรีเดล เข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2 – 0
เริ่มครึ่งหลัง เกมของแบล็คเบิร์น ยิ่งดูแย่ลงเมื่อเล่นได้เพียง 8 นาทีพวกเขาก็ต้องเหลือตัวผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ เดวิด ดันน์ ถูกใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามหลังจากทำฟาวล์ ซาฮา และจากการตัดสินดังกล่าวทำให้ ฮิวจ์ส ไม่ค่อยพอใจนัก
จากการที่ทีมคู่แข่งเหลือเพียง 10 คนทำให้โรนัลโด้ มองหาโอกาสที่จะทำแฮตทริก เป็นครั้งแรกให้ทีมปีศาจแดง และเขาก็เกือบทำได้เมื่อเกมผ่านไปได้ 1 ชั่วโมงแต่เขาก็ยิงข้ามคานออกไปเล็กน้อย
แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนแต่แบล็คเบิร์น ก็ยังสร้างโอกาส และเกือบทำประตูได้ เมื่อ พีเดอร์เซ่น ได้ยิงจากระยะ 18 หลา แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 82 โรนัลโด้ ได้ยิงอีกครั้งจากกรอบเขตโทษ แต่ แบรด ฟรีเดล ก็ป้องกันไว้ได้ แมนฯ ยูไนเต็ดได้ลูกเตะมุม โดย แอนเดอร์สัน เปิดเข้ามาให้กับริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้ยิงด้วยเท้าขวาแต่บอลก็ไปตรงตัว แบรด ฟรีเดล ป้องกันไว้ได้อีกครั้ง
ก่อนหมดเวลา 2 นาที แบล็คเบิร์น ก็มีโอกาสทำประตูจากการเปิดบอลของ เบนท์ลี่ย์ ให้กับ แซมบ้า ได้โหม่ง แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ป้องกันได้จากเส้นประตู ก่อนที่ เอฟร่า จะตามมาเคลียร์บอลออกไปได้ทัน
จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะเหนือแบล็คเบิร์น ได้ 2 – 0 เก็บ 3 คะแนน ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จ (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
เวส บราวน์ 6
ปาทริซ เอฟร่า 3
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15
โอลิเวียร่า แอนเดอร์สัน 8
ไรอัน กิ๊กส์ 11
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 4
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น.90)( น.34, 35)
หลุยส์ ซาฮา 9
คาร์ลอส เตเบซ 32
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
จอห์น โอเชีย 22
ไมเคิล คาร์ริค 16 น.77 โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 4
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
หลุยส์ นานี่ 17 น.68 หลุยส์ ซาฮา 9
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
แบรด ฟรีเดล 1
แอรอน โมโกเอน่า 15 ( น.75)
ไรอัน เนลเซ่น 6 ( น.76)
คริสโตเฟอร์ แซมบ้า 4
สตีเฟ่น วอร์น็อค 3
เดวิด เบนท์ลี่ย์ 11
เดวิด ดันน์ 19 ( น.30)( น.53)
เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน 7
มอร์เท่น แกมส์ต พีเดอร์เซ่น 12
เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ 10
โรเก้ ซานตา ครูซ 9
สำรอง
เจสัน บราวน์ 32
บรูโน่ เบอร์เนอร์ 20
อังเดร ออยเยอร์ 2
ตูกาย 5
แมตต์ ดาร์บีเชียร์ 27 น.78 โรเก้ ซานตา ครูซ 9
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 2, ยิงตรงกรอบ 9, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 5, เตะมุม 10, ฟาวล์ 7, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 1, การครองบอล 57.7%
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 5, ยิงหลุดกรอบ 4, โดนบล็อค 2, เตะมุม 4, ฟาวล์ 21, ใบเหลือง 3, ใบแดง 1, การครองบอล 42.3%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, เวส บราวน์ 7, ปาทริซ เอฟร่า 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 8, เนมานย่า วิดิช 8, โอลิเวียร่า แอนเดอร์สัน 7, ไรอัน กิ๊กส์ 7, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8, หลุยส์ ซาฮา 6, คาร์ลอส เตเบซ 6
สำรอง ไมเคิล คาร์ริค 5, หลุยส์ นานี่ 6
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แบรด ฟรีเดล 7, แอรอน โมโกเอน่า 5, ไรอัน เนลเซ่น 6, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า 7, สตีเฟ่น วอร์น็อค 6, เดวิด เบนท์ลี่ย์ 8, เดวิด ดันน์ 5, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน 6, มอร์เท่น แกมส์ต พีเดอร์เซ่น 5, เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ 4, โรเก้ ซานตา ครูซ 5
สำรอง แมตต์ ดาร์บีเชียร์ 5
Por